เรียนรู้เกี่ยวกับดาวในระบบสุริยะ(ดาวอังคาร)

mars_photo

        ดาวอังคารเป็นดาวเคาระห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นดวงที่สี่ ซึ่งมีขนากเล็กที่ใน 2 อันดับของระบบสุริยะ ซึ่งชื่อในภาษาอังกฤษที่ได้จากเทพเจ้าแห่งสงครามโรมันคือ “ดาวแดง” ซึ่งดาวอังคารมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 6,794 กิโลเมตร โดยพื้นผิวของดาวอังคารนั้นจะมีปรากฏการณ์เมฆและพายุฝุ่นเสมอ

mars_wallpaper

ดาวอังคารดาวเคราะห์ที่นักวิทยาศาสตร์สนใจ

        โดยดาวอังคารได้รับความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์อย่างมาก เนื่องจากมีองค์ประกอบคล้ายกับโลกหลายอย่างเช่นการหมุนรอบตัวเองนั้น เท่ากับเวลาในหนึ่งวันของโลกนั้นเอง และดาวบริวารของดาวอังคารนั้นมีขนาดเล็กคือ โฟบอส และดีมอส ซึ่งเส้นผ่าศูนย์กลางของโฟบอสมีขนาด 22 กิโลเมตร และดีมอสมีขนาด 12 กิโลเมตร ซึ่งมีวงโคจรใกล้กับดาวแม่ ด้วยพื้นผิวของดาวอังคารนั้นจะมีพื้นผิวที่มีแร่หลายชนิดและมีออกซิเจน โลหะ และธาตุอื่นๆที่เป็นองค์ประกอบรวมกันจึงเป็นหิน โดยพื้นผิวโดยรอบนั้นจะถูกปกคลุมด้วยชั้นหนาของฝุ่น และนักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจกับดาวอังคารอยากมาก เพราะว่าโครงสร้างภายในดาวอังคารนั้นมีการแยกชั้นองค์ประกอบเป็นส่วนแกนโลหะความหนาแน่นสูง และถูกห่อหุ้มอยู่ภายในส่วนประกอบอื่นๆที่มีความหนาแน่นน้อยกว่านั้นเอง และได้มีการทำแบบจำลองของดาวอังคารขึ้นมาอีกด้วยโดยภายในจะแสดงให้เห็นถึงรัศมีอาณาเขตบริเวณของแกนดาวอยู่ในปริมาณ 1,794 กิโลเมตร ซึ่งเป็นดาวที่เชื่อกันว่าสิ่งมีชีวิตสามารถอาศัยอยู่ได้นั้นเอง เพราะมีสิ่งแวดล้อมใกล้เคียงกับโลก และดาวอังคารยังมีภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่สุดอยู่บนดาวอีกด้วย ซึ่งภูเขาไฟมีชื่อว่า

ภูเขาไฟรูปโล่โอลิมปัสมอนส์ (เมาท์โอลิมปัส) โดยเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้วที่อยู่บนที่ราบสูงที่มีความกว้างและขนาดใหญ่โดยภูเขาไฟนี้ยังมีอีกหลายที่ในดาวอังคาร ซึ่งมีขนาดสูงถึง 8.8 กิโลเมตร ซึ่งภูเขาไฟบนดาวอังคารนี้สูงเป็นอันดับที่สองในระบบสุริยะอีกด้วย และยังมีหลุมโพรงอยู่บนดาวอังคาร ซึ่งภาพถ่ายหลุมโพรงได้จากระบบถ่ายภาพจากการปล่อยรังศรีความร้อนที่อยู่บนยานอวกาศของนาซา และสามารถถ่ายได้ให้เราได้เห็นเป็นหลุมโพรงปากถ้ำนั้นเอง โดยมีด้วยกันถึง 7 หลุมแสดงให้เห็นว่ามีทางเข้าถ้ำทั้ง 7 แห่ง และยังได้มีการตั้งชื่อของถ้ำว่า “น้องสาวทั้งเจ็ด” ความกวางของปากถ้ำนั้นมีขนาดอยู่ที่ 100-252 เมตร และมีความลึกถึง 73-96 เมตร เพราะแสงไม่สามารถส่องเข้าถึงได้นั้นเอง ซึ่งคาดการไว้ว่าถ้ำนี้อาจจะเป็นที่หลบภัยของอุกกาบาตขนาดเล็ก ที่ชนกับพื้นผิวของดาวอังคารก็อาจเป็นไปได้นั้นเอง จากความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์ที่ไปสำรวจมานั้นเอง

You may also like...